ดาราดังขับรถชน ไม่ยอมเป่าแอลกอฮอลล์จนสุดท้ายติดต่อชายอ้างว่าเป็นบิดาและเป็นทหารยศพลเอก หากไม่ช่วยเหลือจะย้ายตำรวจโรงพักนี้ทั้งโรงพัก

“แพน สุรเกียรติ” ดาราดัง อายุ 27 ปี ขับรถชน เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมขอเป่าแอลกอฮอลล์ ไม่ยินยอม พยายามต่อสายหาคนโน้นคนนี้ จนสุดท้ายส่งสายให้ ร.ต.ท.นิพนธ์ โดยชายในสายอ้างว่าเป็นบิดาและเป็นทหารยศพลเอก หากไม่ช่วยเหลือจะย้ายตำรวจโรงพักนี้ทั้งโรงพัก
วันที่ 8 ก.ย.63 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.นิพนธ์ พลสวัสดิ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันบริเวณใต้ทางด่วนวัดบัวขวัญ ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ มีการโต้เถียงกันในที่เกิดเหตุ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบรถคู่กรณีเป็นรถเก๋ง มาสด้า 3 สีดำ สภาพด้านหน้าเสียหายเล็กน้อย ส่วนรถคู่กรณีอีกฝ่ายเป็นรถปิคอัพ ยี่ห้อเชฟโรเล็ต สีขาว กันชนด้านหน้ามีรอยถูกชนจนแผ่นป้ายทะเบียนหลุด ตัวรถเสียหายเล็กน้อยเช่นกัน

สอบถามนายจตุพร พุทธโกสัย อายุ 31 ปี พ่อค้าขายของ ขับรถปิคอัพ เปิดเผยว่า ตนขับรถจะถึงร้านกำลังจะเลี้ยวคู่กรณีขับรถมาด้วยความเร็ว ลักษณะเมาไม่ยอมลงจากรถ ตนจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ส่วนคนขับรถเก๋งมาสด้า 3 ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุรเกียรติ บุนนาค หรือ แพน อายุ 27 ปี ดาราดัง นั่งอยู่แต่ในรถไม่ยอมลงมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและคู่กรณีที่ถูก“แพน สุรเกียรติ” ดาราดัง ชน เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมขอเป่าแอลกอฮอลล์ ก็ไม่ยินยอม พยายามต่อสายหาคนโน้นคนนี้ จนสุดท้ายส่งสายให้ ร.ต.ท.นิพนธ์ โดยชายในสายอ้างว่าเป็นบิดาและเป็นทหารยศพลเอก หากไม่ช่วยเหลือจะย้ายตำรวจโรงพักนี้ทั้งโรงพัก

ต่อมามารดาของ“แพน สุรเกียรติ” ขับรถเก๋งฮอนด้า สีบรอนซ์เงิน มาที่เกิดเหตุและขอร้องไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป่าแอลกอฮอลล์ลูกชาย มีการโต้เถียงกันนานกว่า 4 ชั่วโมง สองแม่ลูกก็ไม่ยินยอมให้เป่าและปฎิเสธที่จะไปโรงพัก ตัวของ“แพน สุรเกียรติ” เองเข้าไปนั่งในรถมารดาไม่ยอมเจรจาใดๆทั้งสิ้น พร้อมขอร้องไม่ให้นักข่าวถ่ายรูป เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าเวลาผ่านไปนานมากแล้วจึงใช้กำลังดึงตัวออกมาจากรถจะนำขึ้นรถยนต์สายตรวจแต่“แพน สุรเกียรติ” กับมารดาพยายามขัดขืนจนทั้งสองฝ่ายยื้อยุดฉุดกระชากกันจนนายสุรเกียรติล้มลงหัวเข่าแตกเลือดไหล ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจใส่กุญแจมือทันทีก่อนนำขึ้นรถสายตรวจพาตัวมาที่โรงพักเป่าวัดแอลกอฮอลล์ พบว่ามีปริมาณสูงถึง 196 มิลลิกรัม ก่อนแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

โดยความคืบหน้าล่าสุด ศาลแขวงนนทบุรี อ่านคำพิพากษาในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 3572/2563 ภายหลังพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องนายสุรเกียรติ ในข้อหาขับรถในขณะเมาสุราและขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายทั้งนี้นายสุรเกียรติให้การยอมรับสารภาพว่าได้กระทพควสมผิดตามที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาจริง ศาลจึงพิพากษาจำเลยกระทำผิดตามฟ้องให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ฐานขับรถในขณะเมาสุรา คงจำคุก 3 เดือน และปรับ 10,000 บาท และฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย คงปรับ 500 บาท ลงโทษจำคุก 3 เดือน และปรับ 10,500 บาท โดยโทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 3 ปี และให้คุมความประพฤติจำเลยไว้มีกำหนด 2 ปี โดยให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง พร้อมกับให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็นเวลา 24 ชั่วโมง โดยให้จำเลยเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับกฎระเบียบวินัยจราจรและผลของการเสพสิ่งมึนเมาหรือสิ่งเสพติดที่มีต่อร่างกายและจิตใจเพื่อความปลอดภัยในการขับรถอย่างน้อย 1 ครั้งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29,30 ให้พักใช้ใบอนุญาตขับรถของจำเลยมีกำหนด 6 เดือนนับแต่วันมีคำพิพากษาผู้สื่อข่าวรายงานว่า